รีวิวหนังเรื่อง Raya and the Last Dragon (2021) รายากับมังกรตัวสุดท้าย

เรื่องย่อ

ตัวอย่าง

เข้าเรื่องกันก่อนที่หนังจะเปิดด้วยตำนานกุมมันทรา แผ่นดินใหญ่ที่น้ำไหลให้กำเนิดอวัยวะมังกรทั้งห้า อันได้แก่ กรงเล็บ เขี้ยว เงี่ยง หัวใจ และหาง พวกเขาร่วมกันต่อสู้และเสียสละ เหลือเพียงอัญมณีแห่งมังกรที่เก็บไว้ในเมืองของเผ่าหัวใจ

 

และเมื่อ 500 ปีผ่านไป เบญจา (แดเนียล แดคิม นักพากย์) หัวหน้าเผ่ามังกร คิดที่จะรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อสร้างคูมันดราขึ้นใหม่ เปิดบ้านของเขา เชิญกลุ่มเข้ามาและนำ รายา (เคลลี มารี ทราน ให้เสียงพากย์) หัวใจของเจ้าหญิง Tran (พากย์เสียง) ไปพบกับนัมมาอารี (เจมมา ชานให้เสียงพากย์) ที่กลืนกินและแช่แข็งผู้คนให้เป็นหินอีกครั้ง และเพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดรายาต้องรวบรวมเศษอัญมณีจากเมืองต่างๆ เพื่อชุบชีวิตมังกรและถอนคำสาปเพื่อทำให้มนุษย์หินกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

 

เอาล่ะ ก่อนจะตัดสินใจว่าเรยาเป็นคนสัญชาติอะไร มาเข้าประเด็นที่คิดกันตรงๆ พูดตามตรง โครงเรื่องนั้นค่อนข้างจะไปทางฝั่ง Pixar ของ Brave และยังคงติดตามคัมภีร์ไบเบิลฉบับบล็อคบัสเตอร์ของดิสนีย์เกือบทุกตารางนิ้ว โดยเฉพาะกับตัวละครสุดน่ารักที่ขโมยซีน รายาครั้งนี้จัดเต็มกับสัตว์ตุ๊กๆที่รวมความน่ารักของน้องหมาหน้าเหมือนเม่นและม้วนตัวเหมือน BB8 ใน Star Wars แถมแก๊งขโมยผ้าอ้อม นำโดยทารกแสนซนที่เธอพบในเผ่ากรงเล็บ ไม่รวมแมวยักษ์ของเผ่าเขี้ยวอีกครั้ง โอ๊ยยย เกือบสำลักความน่ารัก

 

หนังน่าดู Disney Plus

 

หนังน่าดู Disney Plus

 

และแน่นอน มีจุดที่ต้องบอกเสมอในสูตรของดิสนีย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Raya มีปัญหาเรื่องความเชื่อใจที่ทำให้ผู้ชมตกตะลึงด้วยฉากเปิดตัวที่หายนะและมันให้ภาพด้านลบกับความไว้ใจมาก ๆ จนมันนำไปสู่เควสต์ของนางเอกที่ต้องกอบกู้สถานการณ์โดยประเด็นเรื่องความไว้ใจเป็นธีมที่ร้อยรัดกันไปทั้งเรื่องแต่สิ่งหนึ่งที่หนังไม่อาจสร้างความไว้ใจให้เราได้เลยคือโจทย์ของวัฒนธรรมที่หนังเอามานำเสนอนี่แหละ

 

ตอนนี้ สิ่งที่ฉันคิดว่าน่าสนใจและกระตุ้นความคิดคือการพยายามสร้างโลกและเรื่องราวของอาเซียนที่ดิสนีย์ ไม่ใช่แค่วัฒนธรรมเพียงอย่างเดียว แต่เอามาผสมกันคิดว่ามาจากไหน เราจึงเห็นตัวละครสไตล์ฮาวายจาก Stitch & Lilo แต่งตัวเหมือนชาวอินโดนีเซีย อาจจะเป็นเวียดนามเดินแบบบาหลี แต่ชื่อตัวละครผสมกัน มีลาว-ไทย อย่างน้อย ทองบุญ ตุ๊ก-ตุ๊ก (แต่ชื่อมังกรเป็นสีสวาด) แถมชื่อสุ่มที่คนอาเซียนไม่คุ้นเคย แต่ถ้าดูดีๆ จะพบว่าเรยา อาจวิพากษ์วิจารณ์สิ่งต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของชาวอาเซียนที่ทะเลาะกันเอง

หนังน่าดู Disney Plus

 

หนังน่าดู Disney Plus

 

แน่นอนว่าแต่ละชาติก็ต้องตีความในแบบของตัวเอง แน่นอนว่า สิ่งเดียวที่ Disney นำวัฒนธรรมประจำชาติของตนเองมาใส่ในแอนิเมชั่นแห่งจินตนาการสูง เช่น ชื่อทารกที่ไม่ได้พูดและอยู่แต่กับลิงทำให้เราสงสัยมาก เพราะจริงๆ จะน้อย จะทอง จะบุญ หรือตุ๊กตุ๊ก ตัดสินใจยากว่าชื่อแบบนี้คือไทยหรือลาว เพราะเรามีวัฒนธรรมร่วมที่ใกล้ชิดหรือคล้ายคลึงกันมาก อินโดนีเซียกับมาเลเซียในสายตาเขาคล้ายกันมาก ต่างชาติ แม้แต่คนเขียนก็มีชื่อคนเชื้อสายเอเชีย การเลือกปฏิบัติที่ไม่ดีทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูผสมผสานกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมากมายจนยากที่จะบอกได้ว่ามาจากชาติใด

 

ไม่แปลกที่หนังหยิบประเด็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมาพูดด้วย “ความเชื่อใจ” ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้นึกถึงเป็นธีมหลักของเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณานโยบายเขตเศรษฐกิจอาเซียนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2510 ถึง 2553 หรือเมื่อ 11 ปีที่แล้ว “ไม่เคยตรงกัน” กับอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นตารางเรียนหรือข้อตกลงทางการค้าที่เป็นรูปธรรม เราได้ประโยชน์แค่ “เล็กน้อย” เหมือนอัญมณีมังกรหักในตอนต้นเรื่อง “ผู้คนจะเริ่มสูญเสียเมื่อใด”

หนังน่าดู Disney Plus

ผู้เขียนรีวิวเรื่องนี้

Nineztr