ปลุกความเป็นเด็กในตัวคุณ! ปลุกช่วงวัยเด็กอันรุ่งโรจน์ขึ้นมาอีกครั้งกับภาคต่อ (หรือภาคก่อนหน้า?) ของ Monsters, Inc. ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ครองใจคนทั่วโลกมาแล้ว อันมีนามว่า Monsters University มหา’ลัยมอนสเตอร์
Monsters University เป็นผลงานเรื่องล่าสุดจากพิกซาร์ ค่ายลูกของดิสนีย์ที่ฝากผลงานภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่มัดใจทั้งผู้ใหญ่และเด็กมาแล้วทั่วโลก ได้ผู้กำกับใหม่ที่เปลี่ยนจาก Pete Docter ในภาคแรกมาเป็น Dan Scanlon แทน ตัวแดนเองยังไม่เคยกำกับหนังใหญ่จากพิกซาร์มาก่อน แต่ก็พอมีประสบการณ์กำกับมาจาก Mater and the Ghostlight การ์ตูนสั้นของเจ้าเมเทอร์จากเรื่อง Cars มาแล้ว มีประสบการณ์ในหนังด้านนี้มาพอสมควรจากการเป็น storyboard artist ให้พิกซาร์และดิสนีย์ ผลงานอาทิ Cars, Little Mermaid 2, 101 Dalmatians 2
ความจริงแล้วภาคนี้ไม่น่าจะได้เกิดขึ้นด้วยซ้ำในตอนแรก จากหนังสือ Art of Monsters University กล่าวไว้ว่าครั้งนึงเคยมีการประชุมกันที่พิกซาร์เรื่องภาคต่อของ Monsters, Inc. มีการถกเถียงกันอยู่นาน ทางด้านพีทผู้กำกับภาคแรกบอกว่าเรื่องในภาคแรกมันจบอย่างสมบูรณ์แล้ว บูจากซัลลี่และไมค์ไปแล้ว การจะนำเธอกลับมาในภาคต่อไปจึงไม่ควรเป็นอย่างยิ่งเพราะเรื่องได้จบแบบเพอร์เฟ็คไปแล้ว คุยกันไปคุยกันมา ไอเดียของ Monsters University จึงถูกนำขึ้นมาและได้สร้างในที่สุด
เนื้อเรื่องในภาคนี้เป็น Prequel เกิดก่อนภาคแรก โดยจะเล่าถึงอดีตก่อนที่ ไมค์ วาโซว์สกี้ และ เจมส์ พี “ซัลลี่” ซัลลีแวน จะมาทำงานในบริษัทรับจ้างหลอน (ไม่) จำกัดด้วยกัน พวกเหล่ามอนสเตอร์ก็เหมือนมนุษย์ทั่วไป ก่อนจะทำงาน ก็ต้องเข้ามหาลัยซะก่อน! ไมค์เจ้ามอนสเตอร์ตัวเขียวตาโตใฝ่ฝันอยากเป็นนักหลอนตั้งแต่เด็ก ด้วยแรงพลักดันอันยิ่งใหญ่ เขาก้าวเข้าสู่มหาลัยมอนสเตอร์ แล้วจึงลงสมัครเอกวิชานักหลอนทันที แต่หนทางสู่ฝันมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะไมค์ทั้งตัวเล็ก น่ารักคิกขุ และไม่ได้น่ากลัวเลยซักนิด เขาจะเป็นนักหลอนได้มั้ยนี่?? ด้วยมรสุมชีวิตที่ต้องฝ่าฟันนี้นี่เอง ที่ทำให้ไมค์ได้พบกับซัลลี่ เพื่อนซี้ของเขาในอนาคต หนทางสู่การเป็นนักหลอนของทั้งคู่จึงเริ่มต้นขึ้น
เป็นหนังเรื่องนึงที่ผมรอคอยมากที่สุดของปีนี้ ด้วยความที่เป็นแฟนของพิกซาร์และเหล่ามอนสเตอร์ที่รักเหล่านี้มาก การที่นั่งจ้องปฏิธินรอวันฉายจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ 😛 ที่ไทยเราออกฉายช้าพอสมควรหากเทียบกับต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาที่ฉายตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ในขณะที่ในบ้านเราออกฉายตั้งเดือนสิงหา! ทำเอาผมนอนชักแด่วๆจะตายอยู่แล้ว จนในที่สุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมก็ได้มีโอกาส (โดดเรียน) ไปดูกับผองเพื่อน ด้วยความที่เป็นหนังเด็ก ในโรงจึงมีแต่เสียงเด็กเต็มไปหมด นั่งคุยเสียงดังบ้างอะไรบ้าง ถ้าเป็นเรื่องอื่นอาจจะลุกขึ้นไปใส่แล้ว แหม่ แต่ด้วยพลังงานบางอย่างกลับตรึงผมไว้กับเก้าอี้ ตัวหนังมีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ คอยดึงความสนใจของผมไว้ตลอดเวลา
กลัวอยู่พอสมควรนะ เพราะภาคต่อส่วนใหญ่มักไม่สนุก ออกมาห่วยกว่าภาคแรกเสมอ โดยเฉพาะภาคต่อของหนังที่เรารอคอย เราก็หวังกับมันเยอะ แถมมันเป็นภาคต่ออีก ความกดดันจึงเยอะพอสมควรเชียว แต่ Dan Scanlon ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า Monsters University ไม่ใช่ภาคต่อประเภทนั้นแน่นอน หนังทำออกมาได้สนุกอย่างเหลือเชื่อ เป็น 104 นาทีที่ผ่านไปได้ไวเหมือนโกหก เป็น 1 ชั่วโมงกว่าๆที่เพลิดเพลินอย่างถึงที่สุด ตัวเรื่องดำเนินค่อนข้างกระชับ ไม่มีน่าเบื่อ อาจยังสู้ภาคแรกไม่ได้ ด้วยเหตุผลนิดๆหน่อยๆ แต่ถ้าจับทั้งสองภาคมาสู้กัน จะถือว่าเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อมาก ภาคนี้ค่อนข้างฮา มีมุกเยอะ เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา ซึ่งผมชอบในจุดนี้มาก ผสมผสานความฮาลงไปได้ลงตัว ไม่บ่ายหรือน้อยจนเกินไป แต่ก็ทำให้นั่งยิ้มได้ทั้งเรื่อง
ภาคนี้มาพร้อมความสดใหม่อย่างมากถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ การนำตัวละครที่คุ้นเคยมาตีความใหม่ เล่าใหม่ นำเสนอด้วยมุมมองที่แตกต่างด้วยการย้อนอดีตทำให้เราได้รู้จักตัวตนของพวกเขามากขึ้น เป็นข้อดีของหนังประเภท Prequel ที่เราจะได้เห็นจุดกำเนิดและที่มาของตัวละครที่เราชอบ ได้เห็นความพัฒนาของพวกเขา ได้เห็นปมปัญหาที่ช่วยหล่อหลอมตัวละครตัวนึง ให้กลายเป็นตัวละครที่เราคุ้นเคยในวันนี้
ในเรื่อง เราจะได้เห็นโลกมอนสเตอร์ โลกของเหล่าสัตว์ประหลาดในมุมมองที่ต่างจากแต่ก่อน ได้เห็นสภาพชีวิตของพวกเขามากขึ้น ในภาคก่อนที่เห็นกันแต่เมืองใหญ่ โรงงานหรืออื่นๆ ในภาคนี้เราจะได้เห็นว่าวิถีชีวิตของพวกเขาก็ไม่ได้ต่างจากวิถีชีวิตของมนุษย์ปกติของเราเลย เป็นการเปิดโลกใหม่ให้คนดูเลยก็ว่าได้
มอนสเตอร์ใหม่ๆมากหน้าแลปกตาขนกันมาเป็นโขยง เป็นเรื่องปกติของหนังที่ตัวดำเนินเรื่องไม่ใช่มนุษย์ ตัวละครเป็นสัตว์ เป็นเอเลี่ยน เป็นมอนสเตอร์ประเภทนี้มักจะมีจุดขายจุดนึงที่สำคัญคือความแปลกแหวกแนวและความหลากหลายของตัวละคร ภาคที่แล้วจัดเต็ม ภาคนี้จัดเต็มพอๆกัน แต่ในภาคนี้อาจจะเยอะกว่าหน่อยเพราะเป็นมหาลัย นักเรียนต้องเยอะเพื่อแสดงพาวเวอร์ของตัวมหาลัยเอง ความหลากหลายของมอนสเตอร์จึงมีมาก และในภาคนี้ยังมีตัวละครสำคัญใหม่ๆมาเสริมทัพด้วย รับส่งกันโอเค แต่ละตัวมีเสน่ห์ของตัวเอง ทำให้คนดูรักได้ไม่ยากเลย
ไม่ใช่ว่าภาคใหม่ จะมีแต่ตัวละครใหม่ เพราะภาคนี้ก็ยังมีเหล่ามอนสเตอร์หน้าเก่ากลับมาแจมไม่ใช่น้อย อย่างเจ้าแรนดัลล์กิ้งก่าสีม่วงตัวร้ายในภาค Inc. ที่ในภาคนี้ท่าทางไร้พิษภัยสุดๆ ไม่ใช่แค่แรนดัลล์ แต่ยังมีตัวละครอีกมากที่อาจซ่อนอยู่ บนคนโผล่มาให้เห็นกันชัดๆเลย ก็ต้องขึ้นอยู่กับคนดูล่ะครับว่าจะจำพวกเขาเหล่านั้นได้มั้ย และยังมี Easter eggs ที่โยงไปหาภาคก่อนหรือหนังเรื่องอื่นตามประสาพิกซาร์ด้วยนะ จาหาเจอกันมั้ยเอ่ย 🙂
Monsters University พูดตามตรงก็ไม่ได้ดีเด่อะไร รักษามาตรฐานของการ์ตูนพิกซาร์ไว้ได้ ดูสนุกดูเพลินสำหรับทุกคนในครอบครัว คนที่ไม่ใช่แฟนอาจว่าเฉยๆ แต่สำหรับผมมันมากกว่าแค่การ์ตูนเรื่องนึงนะ มันเหมือนการได้เจอเพื่อนเก่าอ่ะ Monsters, Inc. ออกฉายครั้งแรกในปี 2001 ซึ่งในตอนนั้นผมยังเด็กมาก ไม่ได้ไปดูในโรง นั่งดูแผ่นอยู่ที่บ้านตั้งแต่เล็ก ดูบ่อยมากด้วยความที่เป็นเด็กที่ชอบสัตว์ประหลาดและหนังการ์ตูน ดูจนเหมือนมันเป็นส่วนนึงในชีวิตวัยเด็กของเรา จนเหมือนเป็นเพื่อนคนนึง เห็นไมค์และซัลลี่เป็นคนรู้จักเลยก็ว่าได้ การที่ Monsters University ออกมา มันเหมือนผมได้กลับไปเจอเพื่อนเก่าอีกครั้งอ่ะ ได้กลับไปพบไมค์และซัลลี่เพื่อนรักในวัยเด็กอีกครั้ง นั่งดูแล้วหุบยิ้มไม่ได้ มันเหมือนได้เจอคนรู้จักที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี ตื้นตันแบบบอกไม่ถูก ตอนเห็นตัวละครจากภาค Inc. โผล่มาแว็บๆทีก็หุบยิ้มไม่ได้ เดินออกมาจากโรงพร้อมรอยยิ้มแห่งความตื้นตัน และรอซักวันเราอาจได้ไปผจญภัยด้วยกันอีกนะไมค์และซัลลี่… 🙂
สรุป! Monsters University สนุก ดูเพลิน ตลก ฮา น่ารัก และชวนอุ่นใจ โอเคในระดับมาตรฐานของพิกซาร์ ไม่ได้ดีเด่อะไร แต่แค่ได้เห็นตัวละครที่รักของเราอีกครั้ง แค่นั้นก็สุขใจแล้ว (A+)