รีวิวหนังเรื่อง Incredibles 2 (2018) รวมเหล่ายอดคนพิทักษ์โลก 2
หนังเปิดเรื่องด้วยฉากแอ็คชั่นทั้งครอบครัวพาร์ พ่อแม่กับลูกทั้ง 3 และโฟรโซน ออกมายับยั้งการปล้นธนาคารของอันเดอร์ไมเนอร์ วายร้ายที่มาพร้อมกับรถหัวเจาะขนาดยักษ์ เป็นฉากแอ็คชั่นที่ดูแล้วก็สงสัยกับตัวเอง ว่าที่ดูอยู่นี่มันคือหนังการ์ตูน แต่ทำไมมันสนุกจังวะ งานออกแบบฉากแอ็คชั่นยอดเยี่ยมสนุกไม่แพ้หนังซูเปอร์ฮีโรคนแสดงเลย สถานการณ์ชวนลุ้นตื่นเต้น ทั้งต้องยับยั้งแผนปล้นธนาคาร ทั้งต้องช่วยเหลือผู้คน ทั้งต้องไล่ตามจับอันเดอร์ไมเนอร์ แล้วบทก็กระจายหน้าที่ให้ทุกคนได้มีบทบาท แถมยังสอดแทรกมุกตลกกับการเกี่ยงกันดูแล แจ๊ค-แจ๊ค เจ้าตัวเล็กที่ยังไม่ประสีประสา จากนั้นก็เปิด 2 ตัวละครใหม่คู่สำคัญพี่น้องตระกูลเดเวอร์ วินสตัน และ เอเวอลีน ที่เป็นแฟนคลับของมิสเตอร์อินเครดิเบิ้ล และ อีลาสติเกิร์ล พร้อมสนับสนุนให้ยกเลิกกฏหมายแบนซูเปอร์ฮีโร่ ด้วยการผลักดันให้อีลาสติเกิร์ลออกปฏิบัติการอีกครั้ง และยังเอื้อเฟื้ออุปกรณ์ ชุด พาหนะ และบ้านพักให้ครอบครัวพาร์ด้วย แผนการเหมือนจะดำเนินไปด้วยดี อีลาสติเกิร์ลได้รับการสรรเสริญจากประชาชน ท่านทูตออกโรงสนับสนุนยกเลิกแบนซูเปอร์ฮีโร่ แต่แล้วก็มีวายร้ายตัวใหม่ สกรีนสเลฟเวอร์ ที่มีความสามารถในการสะกดจิตผู้คนผ่านจอมอนิเตอร์ให้ทำเรื่องร้าย ๆ กลายเป็นภารกิจครั้งใหญ่ของครอบครัวพาร์ และโฟรโซน ที่จะต้องยับยั้งแผนการของสกรีนสเลฟเวอร์และกระชากหน้ากากผู้อยู่เบื้องหลังนี้ออกมา ตรงจุดนี้แหละที่หนังโดนเสียงบ่นเรื่องแสงแสบตา และมีผลต่อสุขภาพคนดู เพราะก่อนที่สกรีนสเลฟเวอร์จะสะกดจิตจะยิงแสงกะพริบที่สว่างมากเป็นเวลานานใส่เหยื่อ ก็ยอมรับนะว่าสว่างและรบกวนสายตามากจริง ๆ แม้ว่าตัวเองจะสายตาปกติก็ยังรู้สึกไม่สบายตา ถึงฉากนี้ก็เบือน ๆ หน้าหลบกันหน่อยแล้วกัน ฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่องนับว่าเป็นจุดที่พีคจริง ๆ เราคาดหวังมาตลอดว่าอยากเห็นเจ้า […]
รีวิวหนังเรื่อง Monsters University (2013) มหา’ลัย มอนส์เตอร์
ปลุกความเป็นเด็กในตัวคุณ! ปลุกช่วงวัยเด็กอันรุ่งโรจน์ขึ้นมาอีกครั้งกับภาคต่อ (หรือภาคก่อนหน้า?) ของ Monsters, Inc. ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ครองใจคนทั่วโลกมาแล้ว อันมีนามว่า Monsters University มหา’ลัยมอนสเตอร์ Monsters University เป็นผลงานเรื่องล่าสุดจากพิกซาร์ ค่ายลูกของดิสนีย์ที่ฝากผลงานภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่มัดใจทั้งผู้ใหญ่และเด็กมาแล้วทั่วโลก ได้ผู้กำกับใหม่ที่เปลี่ยนจาก Pete Docter ในภาคแรกมาเป็น Dan Scanlon แทน ตัวแดนเองยังไม่เคยกำกับหนังใหญ่จากพิกซาร์มาก่อน แต่ก็พอมีประสบการณ์กำกับมาจาก Mater and the Ghostlight การ์ตูนสั้นของเจ้าเมเทอร์จากเรื่อง Cars มาแล้ว มีประสบการณ์ในหนังด้านนี้มาพอสมควรจากการเป็น storyboard artist ให้พิกซาร์และดิสนีย์ ผลงานอาทิ Cars, Little Mermaid 2, 101 Dalmatians 2 ความจริงแล้วภาคนี้ไม่น่าจะได้เกิดขึ้นด้วยซ้ำในตอนแรก จากหนังสือ Art of Monsters University กล่าวไว้ว่าครั้งนึงเคยมีการประชุมกันที่พิกซาร์เรื่องภาคต่อของ Monsters, Inc. มีการถกเถียงกันอยู่นาน ทางด้านพีทผู้กำกับภาคแรกบอกว่าเรื่องในภาคแรกมันจบอย่างสมบูรณ์แล้ว บูจากซัลลี่และไมค์ไปแล้ว […]
รีวิวหนังเรื่อง Pete’s Dragon (2016) พีทกับมังกรมหัศจรรย์
ปีนี้เราได้ดูหนังที่ตัวเอกเป็นเด็กโตในป่า 3 เรื่องแล้ว Jungle Book ,The Legend Of Tarzan แล้วก็มาถึง Pete’s Dragon หนังแปะยี่ห้อดิสนีย์ ที่รอบนี้ พีท เป็นเด็ก 4 ขวบที่ประสบอุบัติรถคว่ำในป่า พ่อแม่เสียชีวิต มังกรมาเก็บพีทไปเลี้ยง พีทเรียกมังกรของเขาว่า เอลเลียต ตามชื่อหมาในนิทานเรื่องโปรด พีทกะเอลเลียตอยู่กันมาอย่างสงบสุขถึง 6 ปี จนเมื่อกลุ่มคนตัดไม้รุกล้ำไปใกล้อาณาเขตของพีทและเอลเลียต มีผู้พบเห็นพีท ความโกลาหล จึงคืบคลานมาใกล้พีทและเอลเลียต เดวิด โลเวอรี ผู้กำกับชื่อไม่คุ้นหู แต่อยู่ในวงการมานานเก่งทั้งเขียนบทและตัดต่อ มารับเหมาหน้าที่กำกับและดัดแปลงบทภาพยนตร์จากหนังต้นฉบับที่ดิสนีย์เคยสร้างเป็นคนผสมการ์ตูนเมื่อปี 1977 และปรับเปลี่ยนเรื่องราวไปมากพอดู จากมังกรที่เป็นการ์ตูนก็เป็นมังกรซีจี ที่ภาพลักษณ์ดูแปลกและขัดตามากในแวบแรกที่เห็น เพราะดูมีความเป็นการ์ตูนมากต่างจากมังกรที่เคยเห็นบนจอภาพยนตร์ ด้วยขนสีเขียวปุยหน้าเหมือนหมา มีความละม้ายกับมังกรใน Never Ending Story หนังแฟนตาซีเมื่อปี 1984 แต่พอเรื่องราวดำเนินไปก็พอเข้าใจได้ว่า ภาพลักษณ์ที่ต้องให้ออกมาน่ารักขนปุยแบบนี้มีความสำคัญต่อโทนเรื่องอย่างมาก เพราะต้องสื่อให้คนดูเห็นถึงความน่ารักใจดีของเอลเลียต เป็นมังกรที่เด็กเห็นแล้วไม่ตกใจกลัว มีความอบอุ่นรักกันผูกพันเหมือนเป็นพี่น้อง นอนซุกกันทุกคืนเพื่อจะสื่ออารมณ์ไปถึงฉากดราม่าของหนังได้ถึงจุด เชื่อว่าคนบ่อน้ำตาตื้นได้เสียน้ำตาแน่ ๆ […]
รีวิวหนังเรื่อง Wall-E (2008) วอลล์ – อี หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย
ช่วงนี้ก็จะดูหนังเหงาบ่อยหน่อย อยากเก็บลิสต์ให้หมด สำหรับ Wall-E ก็เป็นอีกหนึ่งหนังเหงาที่เราอยากหยิบกลับมาดูอีกครั้ง เชื่อว่านี่เป็นหนังในดวงใจของหลายๆ คน ด้วยคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ที่ให้หุ่นยนต์เป็นตัวดำเนินเรื่อง แถมยังแทบไม่มีบทพูดระหว่างตัวละครหลักเลยด้วย! Wall-E เล่าเรื่องของวอลล์-อี หุ่นยนต์เก็บขยะตัวสุดท้ายบนโลกนี้ เขามีเพื่อนอยู่คนเดียวคือแมลงสาบ รอบด้านเขาเต็มไปด้วยกองขยะและเศษซากอารยธรรมของมนุษย์ ดูก็รู้ว่าไม่มีมนุษย์คนไหนอาศัยอยู่บนโลกนี้แล้ว และสภาพของโลกก็ไม่น่าจะเหมาะสำหรับสิ่งมีชีวิต (เว้นไว้ให้แมลงสาบผู้ถึกตลอดกาลสักตัว) ทุกๆ วันวอลล์-อีจะทำหน้าที่อย่างขมักเขม้น นั่นก็คือการบีบอัดขยะแล้วจัดการมันให้เข้าที่เข้าทาง ถ้าวันไหนเจอขยะที่ดูมีค่าหน่อย ก็จะเก็บกลับบ้านไปสะสมเป็นคอลเล็กชั่น วันหนึ่งเขาก็เจอเรื่องน่าประหลาด เพราะท่ามกลางความแห้งแล้งแร้นแค้นของโลกใบนี้ กลับมีต้นไม้ต้นเล็กๆ หลบซ่อนอยู่! แน่นอนว่าวอลล์-อีไม่พลาดเก็บเข้ากรุ ในตอนกลางคืน วอลล์-อีจะกลับเข้าบ้าน และเปิดดูโทรทัศน์เครื่องเก่า ที่ซึ่งฉายหนังรักโรแมนติกเก่าๆ มีทั้งฉากที่ผู้คนเต้นรำ และฉากที่พระนางจับมือกัน วอลล์-อีดูแล้วก็อยากจะลองจับมือกับใครสักคนบ้าง แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ เพราะมันไม่เหลือใครแล้วนี่นะ ความเหงาปกคลุมบรรยากาศอย่างรู้สึกได้ชัด การอยู่อย่างโดดเดี่ยว มีเพียงเพื่อนแมลงสาบบนโลกนั้นฟังยังไงก็ดูอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเกินจะทน จนกระทั่งวันหนึ่ง วอลล์-อีก็ได้พบกับอีฟ หุ่นยนต์สาวรูปทรงล้ำ ที่ถูกยานอวกาศนำมาปล่อยทิ้งไว้ วอลล์-อีเจออีฟครั้งแรกก็หลงรักทันที แต่ช่วงแรกๆ อีฟก็จะเย็นชาและอารมณ์เกรี้ยวกราดหน่อย เห็นอะไรผิดสังเกตก็ยิงทิ้งตลอด แต่วอลล์-อีก็เข้าไปใกล้ชิดสนิทสนม ทำให้อีฟกลายเป็นเพื่อนของวอลล์-อีจนได้ วอลล์-อีพาอีฟเข้ามาในบ้าน โชว์สิ่งของต่างๆ ที่เขาเก็บสะสมไว้ให้ดู รวมไปถึงต้นไม้ด้วย เมื่อพบเจอต้นไม้ […]